11 วิธีรักษาอาการหลั่งเร็ว ของผู้ชาย ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน

11 วิธีรักษาอาการหลั่งเร็ว ของผู้ชาย ง่ายๆ ด้วยตัวเองที่บ้าน

สารบัญเนื้อหา

หลั่งเร็ว คืออะไร ?

การหลั่งเร็ว (Premature Ejaculation, PE) คือการที่ผู้ชายไม่สามารถควบคุมการหลั่งอสุจิ ( ถึงจุดสุดยอด , เสร็จกิจ ) ให้นานพอที่ฝ่ายหญิง จะถึงจุดสุดยอด แต่อย่างไรก็ตาม การหลั่งเร็วบางคู่อาจจะไม่ใช่ปัญหา ถ้าคู่ของคุณก็หลั่งเร็วเหมือนกัน เพราะถ้าผู้หญิงเสร็จกิจแล้วแต่ผู้ชายยังไม่เสร็จ อาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่อวัยะเพศหรือเกิดการแสบได้ แต่ถ้าปัญหาการหลั่งเร็วทำให้คู่ของคุณเกิดความทุกใจ คุณควรอ่านบทความนี้จนจบ

แก้ปัญหา อาการหลั่งเร็ว หายขาด

10 วิธีรักษาอาการหลั่งเร็ว ของผู้ชาย

ส่วนใหญ่วิธีรักษาอาการหลั่งเร็ว ของผู้ชายนั้นต้องทำด้วยตัวเอง และบางวิธีต้องทำเรื่อยๆ เพื่อให้หลั่งช้าขึ้น และยิ่งหมั่นทำก็จะยิ่งหลั่งช้าขึ้นเรื่อยๆ แต่การหลั่งเร็วหลั่งช้านั้น ควรปรึกษาคู่ของคุณก่อนว่าควรที่จะหมั่นทำให้หลั่งช้าหรือเปล่า เพราะผู้หญิงบางคนก็ชอบที่หลั่งเร็วมากกว่า เพราะการมีเซ็กนานๆ อาจทำให้ฝ่ายหญิงมีอาการบาดเจ็บ หรือ แสบ ซึ่งอาจจะมีปัญหาสุขภาพอื่นๆตามมาได้ การมีเซ็กควรมีความสุขทั้งสองฝ่าย เพื่อให้ชีวิตคู่ยืนยาว

1.กินอาหารเสริมที่มีซิงค์ (สังกะสี)

ซิงค์ (สังกะสี) มีแร่ธาตุที่จำเป็นที่อาจมีส่วนช่วยในการผลิตฮอร์โมนเพศชาย ซึ่งบางกรณี อาจมีส่วนช่วยให้เรื่องของการหลั่งเร็วอีกด้วย นอกจากนี้ซิงค์ (สังกะสี) ยังมีส่วนช่วยเสริมสร้างภูมคุ้มกันและการเจริญเติบโตของเซลล์อีกด้วย โดยปกติแล้วซิงค์สามารถทานได้ทุกเวลา แต่แนะนำให้ทานซิงค์ (สังกะสี) หลังอาหารประมาณ 1-2 ชั่วโมงจะดีและปลอดภัยที่สุด เพราะถ้าได้รับซิงค์ (สังกะสี)ในปริมาณที่มากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการเหล่านี้

  • เวียนหัว
  • คลื่นไส้
  • อาเจียน
  • ท้องร่วง
  • อาจมีรสชาติของเหล็กในปาก

2.กินอาหารที่มีแมกนีเซียม

นอกจากการทานซิงค์ (สังกะสี)แล้ว แมกนีเซียมจากอาหารต่างๆ ก็เป็นอีก 1 ทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพทางเพศของคุณ และอาจมีส่วนช่วยทำให้อาการหลั่งเร็วดีขึ้นได้อีกด้วย การเลือกกินอาหารเหล่านี้เลยอาจมีส่วนช่วยให้การหลั่งเร็วของคุณดีขึ้น

3.การออกกําลังกายอุ้งเชิงกราน

การออกกําลังกายอุ้งเชิงกราน อาจมีส่วนช่วยชะลอการหลั่งเร็วของคุณได้มากเลยทีเดียว และมีการศึกษาแล้วว่า การออกกําลังกายอุ้งเชิงกราน สามารถชะลอการหลั่งเร็วได้ตลอดชีวิตอีกด้วย ส่วนวิธีสามารถทำได้เองง่ายๆตามวิธีเหล่านี้เลย

3.1 บีบตรงกลางแท่งอวัยะเพศชายของคุณ ระหว่างฉี่ ให้หยุดฉี่ไว้เป็นระยะๆ

3.2 หดอวัยะเพศตอนนอน เป็นเวลา 3 วินาทีจากนั้นให้ผ่อนคลายเป็นเวลา 3 วินาทีทำเซ็ทนี้อย่างน้อย 10 ครั้ง และแต่ละวันให้ทำเซ็ทนี้อย่างน้อย 3 ครั้งต่อวัน

3.3 ค่อยเพิ่มเวลาในการทำตามข้อ 1-2 ขึ้นเรื่อยๆ เมื่อกล้ามเนื้อแข็งแรงขึ้น (อาจจะลองเปลี่ยนจากนอน เป็น ยืน เดิน หรือนั่ง)

3.4 พยายามจดจ่ออยู่ที่อวัยะเพศเท่านั้น อย่าเกร็งหน้าท้อง ต้นขา หรือ ก้น ขณะทำ

4.ช่วยตัวเองก่อนมีเซ็ก

อีก 1 ทางเลือกที่ได้รับความนิยมคือ ช่วยตัวเองให้เสร็จก่อนเริ่มมีเซ็กกับคู่ของคุณ โดยใช้ช่วยตัวเองก่อนมีเซ็กประมาณ 1-2 ชั่วโมง การช่วยตัวเองก่อนมีเซ็กอาจมีส่วนช่วยชะลาการหลั่งได้

5.เลี่ยงการมีเซ็กซักระยะ

ข้อนี้อาจจะดูขัดๆหน่อย เพราะอยากหลั่งช้าขณะมีเซ็กจะให้เลี่ยงการมีเซ็กได้ยังไงกัน แต่การเปลี่ยนการมีเซ็กเป็นการทำให้เสร็จในแบบอื่นๆ อาจมีส่วนช่วยลดแรงกดดันจากการเผชิญหน้ากับการมีเซ็กของคุณได้

6.ถุงยางอนามัยชะลอการหลั่ง

ปกติแล้วถุงยางอนามัยช่วยลดความไวของความรู้สึก ป้องกันไม่ให้หลั่งเร็วอยู่แล้ว แต่ที่วางขายทั่วไปจะเป็นแบบบาง เพื่อป้องกันการท้อง แต่ยังให้ความรู้สึกเหมือนไม่ได้ใส่ แต่ก็มีแบบที่มีน้ำยาเข้มข้น หรือมีสารทำให้ชา รู้สึกได้น้อยลง และทำให้หลั่งช้านั่นเอง

7.ฝึกขมิบก้น

วิธีนี้เป็นการบริหารกล้ามเนื้อหูรูด ทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหูรูดแข็งแรงชะลออาการหลั่งเร็วได้ เพียงแค่ขมิบ 10 วินาที แล้วหยุดขมิบ โดยทำแบบนี้ 10-15 ครั้งต่อวัน

8.ใช้เทคนิด หยุดและเริ่ม

เทคนิคหยุดและเริ่มสามารถช่วยชะการหลั่งเร็วได้ เมื่อรู้สึกอยากเสร็จกิจ ให้หยุดทำก่อน อาจจะมุ่งเน้นไปที่การเล้าโลมอื่นๆ แทนการมีเซ็กจนกว่าจะรู้สึกดีขึ้นค่อยทำต่อ การทำแบบนี้ซ้ำๆ จะยิ่งทำให้คุณควบคุมการหลั่งได้ดีขึ้น

9.อาหารเสริม

ข้อนี้เราไม่ได้ขายของ แต่จะบอกว่า อาหารเสริม เป็นทางเลือกที่ง่ายและไม่ยุ่งยาก และที่สำคัญ อาหารเสริมไม่ใช่ยา เป็นเพียงอาหารที่กินเพื่อเสริมสารอาหารที่ร่างกายขาดไปเพียงเท่านั้น และการเลือกทานอาหารเสริมที่มีสารอาหารเหล่านี้ อาจมีส่วนช่วยให้หลั่งช้าลงได้

  • วิตามินบีรวม
  • ซิงค์
  • แอล-อาร์จินีน
  • โสม
  • สารสกัดจากเปลือกสน

10.ยา

ถ้าใช้ทุกเทคนิค ทุกวิธีแล้ว แต่ยังไม่สามารถควบคุมการหลั่งเร็วได้อีกอาจจะต้องใช้ยาที่ช่วยในการรักษาภาวะซึมเศร้าอย่าง Selective serotonin reuptake inhibitors (SSRIs) เพื่อช่วยชะลอการหลั่ง แต่แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญก่อนเลือกใช้จะดีกว่า และไม่ควรใช้บ่อยๆ เพราะอาจจะเกิดอันตรายต่อร่างกายได้

การหลั่งเร็วมีกี่ประเภท

การหลั่งเร็วมี 2 ประเภท ได้แก่

1.การหลั่งเร็วที่เป็นอยู่แล้ว

เป็นปัญหาการหลั่งเร็วที่เป็นมาตลอดอยู่แล้ว

2.การหลั่งเร็วที่พึ่งเป็น

เป็นปัญหาการหลั่งเร็วที่พึ่งจะเกิดปัญหาขึ้น จากก่อนหน้าที่ไม่มีปัญหา

หลั่งเร็ว เกิดจากอะไร ?

สาเหตุของการหลั่งเร็วนั้นยังไม่เป็นที่แน่ชัดเท่าไหร่ เคยมีการวิเคราะห์ว่าเป็นเพราะจิตวิทยาเท่านั้น แต่ปัจจุบันมีผู้ให้บริการด้านสุขภาพหลายที่ ได้หาความเกี่ยวข้องกับการหลั่งเร็วกับการปฏิสัมพันธ์ที่ซับซ้อน ปัจจัยทางร่างกาย และจิตใจ

สาเหตุทางร่างกาย

  • ระดับสารเคมีในสมองผิดปกติ
  • พันธุกรรม
  • ฮอร์โมนผิดปกติ
  • ต่อมลูกหมากโต
  • ท่อปัสสาวะติดเชื้อ
  • หย่อนสมรรถภาพทางเพศ หรือ นกเขาไม่ขัน
  • โรคต่างๆ เช่น เบาหวาน
  • ยาเสพติด

สาเหตุทางจิตใจ

  • สาเหตุทางจิตใจ
  • การถูกล่วงละเมิดทางเพศ
  • สุขภาพไม่ดี
  • กังวลเรื่องการหลั่งมากเกินไป
  • ความรู้สึกผิด
  • ความเครียด
  • ประสบการณ์ทางเพศ
  • ปัญหาทางความสัมพันธ์

หลั่งเร็ว อาการเป็นยังไง

ปกติแล้วอาการหลั่งเร็ว คือ ไม่สามารถชะลอการหลั่งให้นานเกิน 3 นาทีหรือยังไม่ทันได้สอดใส่ก็เสร็จแล้ว แต่อาการอาจเกิดระหว่างช่วยตัวเองก็อาจจะเป็นได้

หลั่งเร็วกับนกเขาไม่ขัน ต่างกันยังไง

  • หลั่งเร็ว คืออวัยวะเพศแข็งตัว แต่ไม่สามารถมีเซ็กได้นานพอที่ฝ่ายหญิงจะเสร็จ หรือ เสร็จแค่ฝ่ายชายเพียงฝ่ายเดียว
  • นกเขาไม่ขัน (ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ) คือภาวะที่อวัยะเพศชายไม่แข็งตัว หรืออ่อนเกินไปที่จะมีเซ็กได้ ทำให้ไม่สามารถที่จะมีเซ็กได้

สรุป

แม้ว่าวิธีรักษาอาการหลั่งเร็ว ของผู้ชาย จะทำง่ายแต่การหลั่งเร็วไม่ได้แก้ได้เพียงแค่วิธีทางกายเท่านั้น บางครั้ง การหลั่งเร็วก็เกิดจากสาเหตุทางจิตใจ จนทำให้หลั่งเร็ว หนักกว่าคือ นกเขาไม่ขัน (ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ) ถ้าทำตามวิธีแทบทุกอย่างแล้วยังหลั่งเร็วอยู่ ควรปรึกษาคู่นอนของคุณ ว่าต้องการแบบไหน เพื่อให้ปรับปรุงการมีเซ็กให้ถูกใจทั้งสองฝ่าย เพื่อที่จะได้มีเซ็กอย่างมีความสุข แต่ถ้าทำตามแล้วไม่ได้ผล ลองคุยกับคู่แล้วก็ไม่ได้ผล แล้วอายุก็เยอะเกิน 40 ปี+ แล้ว บางทีคุณอาจจะเป็นโรคต่อมลูกหมากโตก็เป็นได้ เพราะต่อมลูกหมากโตเป็นโรคที่ผู้ชายทุกคนต้องเจอเมื่ออายุมากขึ้น และยิ่งไม่ได้ดูแลตัวเอง ก็จะยิ่งเป็นต่อมลูกหมากโตได้ง่ายอีกด้วย

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *