9 อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง ใครสิวเยอะ ควรหามาทาน!

9 อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง ใครสิวเยอะ ควรหามาทาน!

สารบัญเนื้อหา

ซิงค์ (Zinc) หรือ ธาตุสังกะสี เป็นสารอาหารที่จำเป็นต่อร่างกาย เพราะมีบทบาทกับการทำงานของร่างกายหลายๆอย่าง การขาดซิงค์จะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันแย่ ติดเชื้อง่าย ป่วยง่าย ซึ่งคนทั่วโลกมักจะมีอาการขาดซิงค์ (Zinc) กัน เพราะ ซิงค์เป็นสารอาหารที่ไม่สะสมในร่างกาย ใช้แล้วหมดไป เลยทำให้เกิดการขาดซิงค์ได้ง่ายมากๆ
แต่ใช่ว่าคนทั่วโลกขาดซิงค์ แล้วคุณจะทานซิงค์เยอะๆใน 1 วันเพื่อที่ร่างกายจะไม่ขาดซิงค์ได้ เพราะการทานซิงค์มากเกินไปอาจทำให้ทองแดงต่ำ แขนขาไม่มีแรง ปวดหัว คลื่นไส้ และ อาเจียนได้

9 อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง

9 อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง ใครสิวเยอะ ควรหามาทาน!

ทำไม 9 อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง ต่อไปนี้ ถึงดีต่อการรักษาสิว นั่นเพราะว่าซิงค์มีผลต่อร่างกายในหลายๆส่วน และส่วนใหญ่ก็เป็นปัญหาเกี่ยวกับการอักเสบต่างๆของร่างกาย การทานซิงค์ให้เพียงพอต่อวันจะทำให้ระบบภูมิคุ้มกันดีขึ้น แผลหายไวขึ้น การอักเสบต่างๆก็น้อยลง สิวก็เป็นการอักเสบ การติดเชื้อต่างๆ การทานซิงค์จึงมีส่วนช่วยลดปัญหาเกี่ยวกับสิวได้ในระดับนึง

แต่การเป็นสิวอักเสบที่เยอะเกินไป การทานซิงค์เพียงอย่างเดียวอาจจะไม่ได้ช่วยให้ดีขึ้นมาก เพราะสิวอักเสบที่ขึ้นเยอะอาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆร่วมด้วย ถ้าเป็นสิวเยอะ แล้วทานซิงค์เกิน 3 เดือน ยังไม่ดีขึ้น แนะนำให้พบแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับคำแนะนำในการรักษาเพิ่มเติมจะดีที่สุด
9 อันดับต่อไปนี้ เป็นการรวบรวมข้อมูลจากกระทรวงเกษตรของสหรัฐอเมริกา ซึ่งปริมาณซิงค์ (Zinc) ที่เรารวมรวบมา จะเป็นปริมาณซิงค์ในอาหาร 100 กรัมเพียงเท่านั้น ซึ่งปริมาณซิงค์ที่แนะนำต่อวันจะอยู่ที่ 12 มก. ในผู้ที่อายุ 18 ปีขึ้นไป และสูงสุดที่สามารถทานได้ต่อวันคือ 150 มก. การทานซิงค์มากกว่า 150 มก.ต่อวัน อาจทำให้ทองแดงต่ำ แขนขาไม่มีแรง ปวดหัว คลื่นไส้ และ อาเจียนได้

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 9.ดาร์ดช็อกโกแลต

อันดับ 9 ดาร์กช็อกโกแลต

ดาร์กช็อคโกแลต 100 กรัม มีซิงค์ 3.31 มิลลิกรัม 27.58% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 2.21% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
ดาร์กช็อกโกแลตเป็นช็อกโกแลตชนิดหนึ่งที่มีส่วนประกอบของโกโก้ในปริมาณที่สูงกว่าช็อกโกแลตประเภทอื่นๆ มักทำด้วยเนยโกโก้ น้ำตาล และโกโก้ ดาร์กช็อกโกแลตขึ้นชื่อเรื่องรสชาติที่เข้มข้นและประโยชน์ต่อสุขภาพ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน และแร่ธาตุ และสามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 8.ชีส

อันดับ 8 ชีส

ชีส 100 กรัม มีซิงค์ 3.74 มิลลิกรัม 31.17% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 2.49% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
ชีสเป็นอาหารที่ทำจากนมเปรี้ยวที่แยกออกจากหางนม ชีสมีให้เลือกหลายชนิด ได้แก่ ชีสแข็งและนิ่ม กึ่งแข็งและกึ่งนิ่ม บลูวีน และครีมชีส
การกินชีสมีประโยชน์มากมาย ชีสให้สารอาหารที่สำคัญ เช่น แคลเซียมและโปรตีน และเป็นแหล่งพลังงานที่ดี นอกจากนี้ยังมีไขมันและแคลอรีสูงซึ่งสามารถช่วยตอบสนองความหิวและให้พลังงานสำหรับกิจกรรมต่างๆ นอกจากนี้ ชีสบางชนิดยังมีโปรไบโอติกส์สูง จึงสามารถช่วยส่งเสริมระบบย่อยอาหารที่ดีได้ การรับประทานชีสยังมีศักยภาพในการลดความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและยังช่วยลดน้ำหนักอีกด้วย

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 7.ตับ

อันดับ 7 ตับ

ตับ 100 กรัม มีซิงค์ 4 มิลลิกรัม 33.33% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 2.67% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
ตับเป็นแหล่งโปรตีน วิตามิน เกลือแร่ และกรดไขมันจำเป็นที่มีสารอาหารหนาแน่น เป็นแหล่งวิตามินและแร่ธาตุที่ดีเยี่ยมหลายชนิด รวมทั้งธาตุเหล็ก วิตามินบี 12 โฟเลต วิตามินเอ และสังกะสี นอกจากนี้ ตับยังเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันจำเป็น เช่น โอเมก้า 3 และโอเมก้า 6 และนับได้ว่าเป็นอาหารที่มีซิงค์สูงในระดับนึง

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 6.เนื้อวัวไม่ติดมัน

อันดับ 6 เนื้อวัวไม่ติดมัน

เนื้อวัวไม่ติดมัน 100 กรัม มีซิงค์ 4.79 มิลลิกรัม 39.92% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 2.21% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
เนื้อวัวเป็นเนื้อแดงชนิดหนึ่งที่มาจากวัว เป็นอาหารที่มีโปรตีนสูงและอุดมด้วยสารอาหารซึ่งเป็นส่วนสำคัญของอาหารหลายชนิดทั่วโลก เนื้อวัวสามารถปรุงได้หลายวิธี ทั้งย่าง ย่าง ตุ๋น ย่าง และผัด เป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารเช่นสเต็ก แฮมเบอร์เกอร์ และผัดเนื้อ

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 5.เม็ดมะม่วงหิมพานต์

อันดับ 5 เม็ดมะม่วงหิมพานต์

เม็ดมะม่วงหิมพานต์ 100 กรัม มีซิงค์ 5.78 มิลลิกรัม 48.17% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 3.19% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นถั่วชนิดหนึ่ง มีถิ่นกำเนิดในเขตร้อนของอเมริกา มีรสหวานมันเนย และให้ประโยชน์ทางโภชนาการ เช่น โปรตีน ใยอาหาร ไขมันดี วิตามิน และแร่ธาตุ เม็ดมะม่วงหิมพานต์สามารถรับประทานได้เลยหรือใส่ในสลัด เมนูข้าว ขนมอบ สตูว์ และอื่นๆ
เม็ดมะม่วงหิมพานต์เป็นแหล่งที่ดีของสารอาหารที่จำเป็นมากมาย เช่น ทองแดง แมกนีเซียม เหล็ก สังกะสี และฟอสฟอรัสไขมันดีและไม่อิ่มตัวสูงกว่าถั่วอื่นๆ ส่วนใหญ่

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 4.เมล็ดงา

อันดับ 4 เมล็ดงา

เมล็ดงา 100 กรัม มีซิงค์ 7.75 มิลลิกรัม 64.58% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 5.17% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
งาเป็นเมล็ดแบนๆ เล็กๆ มีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีดำ และสีแดง มีรสชาติคล้ายถั่ว ออกหวานเล็กน้อย และเป็นท็อปปิ้งยอดนิยมสำหรับสลัด ขนมปัง และอาหารอื่นๆ สามารถรับประทานได้เองหรือใช้เป็นส่วนผสมในครีมทาฮินี ทาฮินี และอื่นๆ เมล็ดงามีแคลเซียม เหล็ก และสารอาหารอื่นๆ สูง และอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจ เบาหวาน และสภาวะสุขภาพอื่นๆ

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 3.เมล็ดแตงโม

อันดับ 3 เมล็ดแตงโม

เมล็ดแตงโม 100 กรัม มีซิงค์ 10.2 มิลลิกรัม 85% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 6.80% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
เมล็ดแตงโมมักกินแบบแห้ง คั่ว หรือดิบ เป็นแหล่งที่ดีของวิตามินบี กรดไขมันจำเป็น สังกะสี โปรตีน และแมกนีเซียม เมล็ดแตงโมมีประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น ช่วยปรับปรุงการย่อยอาหาร สุขภาพหัวใจ และสุขภาพผิว

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 2.เนื้อวัว

อันดับ 2 เนื้อวัว

เนื้อวัว 100 กรัม มีซิงค์ 10.3 มิลลิกรัม 85.83% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 6.87% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
เนื้อวัวเป็นส่วนผสมที่ได้รับความนิยมในอาหารหลายประเภท รวมทั้งเบอร์เกอร์ สเต็ก เนื้อย่าง และสตูว์ นอกจากนี้ยังใช้ในเนื้อดินซึ่งใช้ทำแฮมเบอร์เกอร์ ทาโก้ และอาหารอื่นๆ
เนื้อวัวเป็นแหล่งโปรตีน ธาตุเหล็ก สังกะสี วิตามินบี และสารอาหารที่จำเป็นอื่นๆ นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งไขมันที่ดีต่อร่างกาย เช่น กรดไขมันโอเมก้า 3 การกินเนื้อวัวสามารถช่วยสนับสนุนการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อและการบำรุงรักษา รวมทั้งให้พลังงาน นอกจากนี้ เนื้อวัวยังเป็นแหล่งที่ดีของกรด conjugated linoleic (CLA) ซึ่งเชื่อมโยงกับประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย เช่น สุขภาพหัวใจดีขึ้น ลดการอักเสบ และแม้กระทั่งการลดน้ำหนัก

อันดับอาหารที่มีซิงค์สูง อันดับที่ 1.หอยนางรมดิบ

อันดับ 1 หอยนางรมดิบ

หอยนางรมดิบ 100 กรัม มีซิงค์ 39.3 มิลลิกรัม 327.50% ของปริมาณที่แนะนำต่อวัน หรือ 26.20% ของปริมาณสูงสุดต่อวัน
อาหารที่มีซิงค์สูงอันดับ 1 ที่ทุกคนทราบกันดี คือ หอยนางรม หอยนางรมดิบเป็นแหล่งคุณค่าทางโภชนาการที่ดี ซึ่งให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย มีแคลอรีและไขมันต่ำ และมีโปรตีน วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระสูง นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของกรดไขมันโอเมก้า 3 ซึ่งมีความสำคัญต่อสุขภาพของหัวใจ การรับประทานหอยนางรมดิบสามารถช่วยลดการอักเสบ ปรับปรุงการย่อยอาหาร และเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน นอกจากนี้ยังเป็นแหล่งที่ดีของสังกะสีซึ่งจำเป็นต่อสุขภาพผิว ผม และเล็บ

คอมเมนต์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *