มีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง ท้องไหม ?

มีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง ท้องไหม

สารบัญเนื้อหา

ประจำเดือน คืออะไร ?

ประจำเดือน คือ การที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ พร้อมมีลูก ประจำเดือนเกิดจากฮอร์โมนใต้สมองที่กระตุ้นรังไข่ ให้สร้างฮอร์โมน โปรเจสเตอโรน (Progesterone) และ ฮอร์โมนเอสโตรเจน (Estrogen) ซึ่งฮอร์โมนที่กล่าวมานี้จะทำให้เยื่อบุโพรงมดลูกมีความหนาขึ้น และพร้อมที่จะรับการฝังตัวของตัวอ่อน หากไม่มีการตั้งครรภ์ เยื่อบุโพรงมดลูดนี้จะหลุดออกมาพร้อมกับเลือด เป็นประจำเดือนนั่นเอง

มีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง ท้องไหม

มีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง หลั่งใน ท้องไหม ?

จากการรวบรวมความเห็นของแพทย์จากหลายสถาบันทั้งในและต่างประเทศการมีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง หลั่งใน ท้องไหมนั้น ได้ข้อสรุปว่า การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงระยะ 7 วันก่อนมีประจำเดือน เป็นระยะที่ถือได้ว่าปลอดภัย มีความเสี่ยงน้อย 

แต่ข้อนี้ใช้ได้สำหรับคนที่ประจำเดือนมาตรงในทุกๆเดือน คนที่ประจำเดือนมาไม่ตรง หรือ ประจำเดือนมาไม่ปกติ ควรกินยาคุมฉุกเฉินไว้จะดีกว่า ถึงแแม้ว่าหลังมีเพศสัมพันธ์แล้ว ไม่กี่วันต่อมาจะมีเลือดออกที่คิดว่าประจำเดือน แต่นั่นอาจไม่ใช่เลือดประจำเดือนเสมอไป แต่ถ้ามั่นใจว่าเลือดนั่นคือเลือดประจำเดือนจริงๆ สามารถกินยาคุมกำหนดปกติได้ และควรกินยาภายใน 5 วันนับตั้งแต่วันที่ประจำเดือนมาวันแรก

มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน ได้ไหม

มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน ได้ไหม ?

จริงๆ แล้วผู้หญิงหลายๆคนจะมีความใคร่เพิ่มขึ้นก่อนมีประจำเดือนและระหว่างมีประจำเดือนเพราะว่าร่างกายได้รับฮอร์โมนเอสโตรเจนและฮอร์โมนเพศชายเพิ่มมากขึ้น และยิ่งไปกว่านั้นเอ็นดอร์ฟินและการหดตัว มีความเกี่ยวข้องกับการสำเร็จความใคร่มีส่วนช่วยลดความเจ็บปวดจากตะคริวขณะมีประจำเดือนอีกด้วย

แต่เนื่องจากมีความเชื่อที่เชื่อต่อๆกันมาอีกทีว่า ประจำเดือนนั้นคือเลือดเสียที่ร่างกายขับออกมา ยิ่งประจำเดือนมามากเลือดยิ่งเสียมาก เลยเกิดคำถามว่ามีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน ได้ไหม คำตอบคือ สามารถมีได้ ประจำเดือนไม่ใช่เลือดเสียอย่างที่ว่ากัน เพราะว่าประจำเดือนคือเยื่อบุโพรงมดลูกที่หลุดออกมาพร้อมเลือดเท่านั้น ประจำเดือนเลยเป็นเหลวธรรมชาติที่ไม่เป็นอันตรายแต่อย่างใด
แต่เนื่องจากขณะเป็นประจำเดือนผู้หญิงจะรู้สึกไม่สบาย และการจะมีเพศสัมพันธ์ขณะมีประจำเดือนก็ดูจะเปื้อนได้ง่ายๆ การใช้ถุงยางสามารถจัดการปัญหานั้นได้ในระดับนึง

มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน ท้องไหม ?

การมีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน มีโอกาสท้องได้ เนื่องจาก เลือดที่ออกมาช่วงวันแรกๆ อาจไม่ใช่ประจำเดือน แต่เป็นเพียงเลือดที่ซึมขณะไข่ตก หากไม่ได้สวมถุงยางอนามัยก็มีความเสี่ยงที่จะท้องได้ และ การมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่ประจำเดือนกำลังจะหาย ก็มีความเสี่ยงที่จะท้องได้ เพราะอสุจิสามารถมีชีวิตในช่องคลอดได้ถึง 72 ชั่วโมง การมีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจำเดือน ไม่จำเป็นต้องกินยาคุมฉุกเฉน แต่ควรกินยาคุมปกติ ภายใน 5 วัน นับตั้งแต่วันแรกที่เป็นประจำเดือน เพื่อลดความเสี่ยงที่จะท้อง

มีเพศสัมพันธ์ตอนไหนถึงจะไม่ท้อง

มีเพศสัมพันธ์ตอนไหนถึงจะไม่ท้อง เป็นคำตอบที่ตอบแบบชัวร์ๆเลยไม่ได้ เพราะ ขนาดการกินยาคุม หรือ ฝังยาคุมก็ยังมีโอกาสที่จะท้องได้ แต่น้อยมาก (1 ใน 2000 ราย) แต่มีเทคนิคนึงที่นิยมใช้กัน เพราะเป็นการคุมกำเนิดแบบธรรมชาติ โดยเลี่ยงวันที่ไข่ตก เพื่อลดโอกาสตั้งครรภ์ ย้ำว่าลดโอกาสตั้งครรภ์ ไม่ได้ป้องกันได้ 100%

เทคนิคหน้า 7 หลัง 7 นับยังไง

เทคนิคหน้า 7 หลัง 7 นับยังไง

เทคนิคมีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุงหน้า 7 หลัง 7 คือ การนับวันที่ไข่ตก เพื่อลดโอกาสที่จะท้อง เพื่อให้ได้วันที่จะมีเพศสัมพันธ์ได้แบบไม่ต้องใส่ถุง แต่หน้า 7 หลัง 7 ก็สามารถใช้ได้ กับคนที่อยากมีลูกเหมือนกัน เพราะถ้าคำนวณถูก ก็สามารถมีลูกได้ง่ายๆ

 

    1. ติดตามรอบเดือนอย่างน้อย 6-12 เดือน
    2. หน้า 7 คือ 7 วัน ก่อนประจำเดือนมา เช่น คำนวณแล้วประจำเดือนมาปกติวันที่ 10 ระยะที่ปลอดภัยคือวันที่ 9,8,7,6,5,4,3
    3. หลัง 7 คือ 7 วันหลังประจำเดือนมา เช่น คำนวณแล้วประจำเดือนมากปกติวันที่ 10 ให้เริ่มนับวันที่ 10 เป็นวันที่ 1 และเริ่มนับต่อไปอีก 7 วัน คือวันที่ 17 วันที่ 18 สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้

*เหมาะสำหรับคนที่ประจำเดือนมาปกติหรือประจำเดือนมาสม่ำเสมอไม่คลาดเคลื่อน

เทคนิคการติดตามวันที่ไข่สมบูรณ์

    1. เริ่มจดรอบเดือน อย่างน้อยๆ 8-12 เดือน
    2. เขียนวันที่เป็นประจำเดือนนานที่สุด และสั้นที่สุด จากการติดตามรอบเดือน
    3. หาวันแรกที่ไข่สมบุรณ์ โดยการนำรอบที่สั้นที่สุดมาลบ 18 เช่น ถ้ารอบสั้นที่สุดคือ 27 วัน ให้ลบ 18 จะได้เป็นวันที่ 9 และจดวันที่ 9 ไว้
    4. หาวันสุดท้ายที่ไข่สมบุรณ์ โดยการนำรอบที่นานที่สุด มาลบกับ 11 เช่น ถ้ารอบยาวที่สุดคือ 30 วัน ให้ลบ 11 จะได้เป็นวันที่ 19
    5. ในระหว่างวันที่สั้นที่สุดและยาวที่สุดคือช่วงที่ไข่สมบูรณ์ ควรเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุงในช่วงวันที่นั้นๆ เช่น วันที่ 9 – 19 ไม่ควรมีเพศสัมพันธ์ จากการคำนวณสูตรนี้

อย่างไรก็ตาม วิธีทั้ง 2 นั้นก็ยังมีความเสี่ยงที่จะท้องได้อยู่ ถ้ามีเพศสัมพันธ์แบบไม่ได้ป้องกัน แต่เป็นเพียงความเสี่ยงเพียงเล็กน้อย ที่หลายๆคนอาจยอมแลกเพื่อการมีเพศสัมพันธ์แบบไม่ใส่ถุง แต่ถ้าจะให้ปลอดภัยกว่า แนะนำให้ใส่ถุงยางหรือกินยาคุมจะดีกว่า เพราะยาคุมมีหลายรูปแบบ และมียาคุมรูปแบบที่กินเพื่อรักษาสิวได้อีกด้วย

ถุงยางหลุดคาช่องคลอด อันตรายไหม

ถุงยางหลุดคาช่องคลอด อันตรายไหม

การที่ถุงยางหลุดคาช่องคลอด อันตรายไหมนั้น ไม่ได้อันตรายมาก แต่อาจทำให้การใช้ถุงยางไม่เกิดประโยชน์ เพราะอาจทำให้ท้องได้ และถ้ามีการเปลี่ยนคู่นอนหลายคน อาจทำให้เสี่ยงติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
การเอาถังยางออกจากช่องคลอดก็ง่ายๆเพียงแค่สอดนิ้วเข้าไปและดึงออกมา แต่ถึงแม้ว่าจะเอาถุงยางออกมาได้แล้วก็ยังคงมีความเสี่ยงของการตั้งครรภ์และโรคติดต่อทางเพศอยู่ดี

มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจำเดือนดีอย่างไร

มีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน ดียังไง ?

1.ลดการปวดประจำเดือน หรือ ตะคริว

การมีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง เมื่อถึงจุดสุดยอดขณะมีประจำเดือน อาจมีส่วนช่วยบรรเทาอาการตะคริวหรือปวดประจำเดือนได้ เนื่องจากการปวดประจำเดือนมาจากการที่มดลูกหดตัวลงเพื่อปล่อยเยื่อบุที่ไม่ได้ใช้งานทิ้งไป เมื่อสำเร็จความไคร่ในช่วงเป็นประจำเดือน กล้ามเนื้อมดลูกก็จะหดตัวทำให้ปล่อยเยื่อบุได้ดีขึ้น การปล่อยเยื่อบุที่ไม่ได้ใช้งานออกจะช่วยบรรเทาอาการตะคริวหรือปวดประจำเดือนได้ และการมีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจำเดือน ยังช่วยกระตุ้นร่างกายให้ปล่อยสารเคมีที่เรียกว่า เอ็นเดอร์ฟิน ซึ่งทำให้รู้สึกดีได้อีกด้วย

2.ประจำเดือนสั้นลง

เนื่องการสำเร็จความใคร่ขณะเป็นประจำเดือนทำให้มดลูกมีการหดตัว ทำให้เนื้อเยื่อถูกผลักออกมาเร็วขึ้น ส่งผลให้ประจำเดือนอาจจะสั้นลงตามไปด้วย

3.เพิ่มความต้องการทางเพศ

ในช่วงที่ก่อนและขณะเป็นประจำเดือนผู้หญิงส่วนใหญ่จะมีความต้องการทางเพศที่เพิ่มมากขึ้นเนื่องจากฮอร์โมนที่ผันผวน แต่เนื่องจากการปวดและรู้สึกไม่สบายตัว ความเชื่อศาสนา และความเชื่อที่ว่าประจำเดือนคือเลือดสกปรก ผู้หญิงเลยไม่ค่อยอยากมีเพศสัมพันธ์ช่วงที่เป็นประจำเดือน

4.สารหล่อลื่นตามธรรมชาติ ไม่เจ็บ

โดยปกติแล้วการจะมีเพศสัมพันธ์ได้จำเป็นต้องมีสารหล่อลื่นจากร่างกาย หรือ สารหล่อลื่นจากผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเซ็ก แต่เนื่องจากในช่วงที่เป็นประจำเดือน มีเลือดออกมาด้วย เลือดจึงทำหน้าที่เป็นสารหล่อลื่นได้ขณะเป็นประจำเดือน

5.อาจบรรเทาอาการปวดหัว

มีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือระบุไว้ว่า ผู้ประมาณครึ่งนึงของการทดลองที่มีอาการปวดหัวจากไมเกรนและเริ่มมีเพศสัมพันธ์ อาการปวดไมเกรนดีขึ้น (อีกครึ่งไม่อยากมีเพศสัมพันธ์ไม่อยากมีเพศสัมพันธ์เนื่องจากปวดหัวไมเกรนอยู่เลยไม่มีความต้องการทางเพศ)

สรุป

การมีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง หลั่งใน ท้องไหม คำตอบคือ ปลอดภัย ถ้า ภายใน 7 วันก่อนมีประจำเดือน แต่ก็มีความเสี่ยงอยู่ และคำตอบนี้ค่อนข้างแน่นอนสำหรับผู้หญิงที่ประจำเดือนมาปกติ และเลือดที่ออกมาจะไม่ใช่ประจำเดือน อาจจะมาจากการตกไข่แทน แต่ถ้ามีก่อนประจำเดือนแล้วประจำเดือนมาปกติ ก็ถือว่าปลอดภัย แล้ว แต่ถ้ามีเพศสัมพันธ์ช่วงมีประจำเดือนอีก แนะนำให้กินยาคุมหลังจาก 5 วันที่เริ่มเป็นประจำเดือน จะดีที่สุด หรือใครอยากลองสูตรมีเพศสัมพันธ์ตอนไหนถึงจะไม่ท้อง ก็สามารถลองได้ เพราะมีการใช้อย่างแพร่หลาย แต่นั่นก็มีความเสี่ยงอยู่ดี ลองหายาคุมมากินหรือฝังยาคุม เพื่อความชัวร์ที่สุดดีกว่า

คอมเมนต์

58 Responses

  1. หนูมีเพศสัมพันธ์วันนี้ที่13 แต่ประจำเดือนยังไม่มาอีกมีโอกาสท้องไหม ไม่แน่ใจปล่อยนอกหรือใน

    1. ถ้าเลยเวลาที่จำเดือนจะมาของทุกเดืนอ แล้วตอนนี้ยังไม่มาก็ มีโอกาสท้องสูงครับ แต่บางทีความเครียด ก็อาจทำให้ประจำเดือนเคลื่อนได้ แต่การมีเพศสัมพันธ์ไม่ป้องกันมีโอกาสท้องอยู่แล้ว ไม่ว่าปล่อยนอกหรือปล่อยใน แนะนำให้ใส่ถุงยางเพื่อป้องกัน หรือ ทานยาคุมจะดีกว่าครับ

    1. 7 วันก่อนประจำเดือนมา ถือได้ว่าเป็นเวลาปลอดภัยครับ มีโอกาสน้อยที่จะตั้งครรภ์ แถมประจำเดือนยังมาแล้ว โอกาสตั้งครรภ์เลยไม่มีครับ แต่ แนะนำให้ ใส่ถุงยาง หรือ ทานยาคุมจะดีกว่าครับ มียาคุมที่ให้เลือกทานหลากหลาย มีแบบคุมฮอร์โมนทำให้สิวลดน้อยลงด้วย โอกาสตั้งครรภ์น้อยด้วยครับ

      1
  2. ปกติเมนส์จะมาวันที่28ทุกเดือน เรามีอะไรกับแฟนวันที่24แบบไม่ใส่ถุงแต่สอดแค่แปปเดียวแตกนอกมีโอกาสท้องไหมคะ

    1. การมีเพศสัมพันธ์ในช่วงระยะ 7 วันก่อนมีประจำเดือนที่มาเป็นปกติ เป็นระยะที่ถือได้ว่าปลอดภัย มีความเสี่ยงน้อย ครับ แต่ก็ยังมีโอกาสท้องได้อยู่ถึงจะสอดแค่แป๊บเดียว เพราะในน้ำหล่อลื่นมีอสุจิปนอยู่ แต่ไม่ได้เยอะเหมือนการหลั่ง แนะนำให้ทานยาคุม หรือ ใส่ถุงยางจะดีกว่าครับ ทุกวันนี้มียาคุมประเภทลดสิวด้วย จะได้สบายใจครับ ไม่กลัวท้องแถมยังหน้าใสอีกด้วย

          1. ถ้าเมนส์มาแล้วก็ไม่ท้องแล้วครับ
            แต่ถ้าจะมีเพศสัมพันธ์อีก แนะนำให้ใส่ถุงยาง หรือ กินยาคุมเพื่อป้องกันจะดีกว่า เพราะว่าถ้าเกิดมีเพศสัมพันธ์แล้วเครียดเรื่องท้อง จะยิ่งทำให้เมนส์คลาดเคลื่อน และเมนส์จะยิ่งมาไม่ปกติครับ

  3. รอบเดือนมาวันที่30-31ของเดือนพฤษภาคม เป็นสีน้ำตาล
    แต่หลั่งในวันที่1กับวันที่4 ไม่ได้กินยาคุมแต่วันที่3 แต่มีเลือดสีแดงเข็มน้ำตาลมาในวันที่7-8 แบบนี้มีโอกาศท้องไหมคะ พอดีจะปล่อยมีน้องคะ

    1
    1. ลือดสีน้ำตาลในวันที่ 30-31 ของเดือนพฤษภาคม อาจเป็นประจำเดือน ส่วนเลือดสีแดงเข้มวันที่ 7-8 อาจเป็นได้ตั้งแต่ การมีเพศสัมพันธ์ที่รุนแรงเกินไป หรือ อาจเป็นสัญญาณการตกไข่ หรือการท้องครับ
      สัญญาณในการตกไข่นั้นสังเกตได้ตามอาการต่อไปนี้คือ
      ปวดท้องน้อย
      เจ็บหน้าอก
      ขาไม่มีแรง
      เลือดออกเล็กน้อยจากช่องคลอด
      ตกขาวเยอะผิดปติ
      ปากมดลูกนิ่มและกว้างขึ้น
      มีอารมณ์ทางเพศเพิ่มมากขึ้น
      แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น แนะนำให้ปรึกษาแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญเพื่อวินิจฉัย เพื่อรับคำแนะนำที่ถูกต้องจะดีที่สุดครับ

  4. ประจำเดือนหนูมาวันแรก หนูมีอะไรกันกับเเฟนแบบไม่ใส่ถุงแต่ปล่อยนอก จะเป็นอะไรมั้ยคะ ประจำเดือนหนูมาไม่สม่ำเสมอ ต้องกินยาคุมฉุกเฉินมั้ยคะ

    1
    1. มีโอกาสท้องน้อยครับ แต่ยังไงก็ยังถือว่ามีโอกาสอยู่ ถ้าเอาชัวร์ๆสุด แนะนำให้กินยาคุมฉุกเฉินและถ้ามีอะไรครั้งถัดไปให้ใส่ถุงยาง หรือไม่ก็ทานยาคุมเป็นประจำเพื่อป้องกันจะดีที่สุดครับ
      การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ อาจเกิดผลข้างเคียงได้ครับ

  5. มีเพศสัมพันธุ์​ในช่วงที่ประจำเดือน​จะมา​ ไม่ได้ใส่ถุง​ หลั่งใน​ เเต่กินยาคุมช้าไป2วัน​ จะท้องไหมคะ

    1. โดยทั่วไปแล้ว หากคุณมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการป้องกัน และเลื่อนการทานยาคุม 2 วัน ความเสี่ยงในการตั้งครรภ์จะสูงขึ้นตามไปด้วยครับ ยาคุมจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อทานตามคำแนะนำโดยไม่ขาดแคลน

  6. มีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ป้องกันแล้วหลั่งใน พอเช้ามีประจำเดือนมาแบบนี้อันตรายมั้ยคะ ต้องทานยารึเปล่า

  7. คือหนูมีเพศสัมพันธ์ตอนมาประจำเดือนวันที่3แล้วและหลั่นในไปสองรอบแฟนเข้าแค่หัวไม่ได้เข้าสุดแบบนี้เสี่ยงไหมคะมีโอกาสท้องไหมคะ

  8. เช้ามืดวันที่26 ตี2 มีเพศสัมพันธ์ไม่ใส่ถุงและหลังใน ตื่นมาในตอนเช้าของวันที่26
    7-8โมงเช้า ประจำเดือนมา ถึงกินยาคุมฉุกเฉินในช่วงบ่าย แบบนี้ท้องใหม

  9. มีอะไรกับแฟนวันที่15หลั่งนอกแล้วไปล้างจะท้องไหมคะแต่มีใส่ถุงหลังจากนั่นค่ะเดือนที่แล้วประจำเดือนมาวันที่18อะค่ะแต่เดือนนี้ยังไม่มาเลยกังวลค่ะ

    1. ถ้ามีอะไรกับแฟนวันที่ 15 แล้วประจำเดือนมาวันที่ 18 มีโอกาสน้อยที่จะตั้งท้องครับ
      การที่ประชำเดือนมาคลาดเคลื่อน อาจเกิดจากความเครียด หรือ พฤติกรรมการใช้ชีวิต เลยเกิดประจำเดือนคลาดเคลื่อนได้ครับ
      ในคนที่ประจำเดือนมาคลาดเคลื่อน แนะนำให้สวมถุงยางทุกครั้งที่มีอะไรกับแฟนเพื่อลดความเสี่ยงในการตั้งครรภ์ และ ไม่ควรใช้สูตร หน้า 7 หลัง 7 ตามที่นิยมกัน เพราะคนที่ประจำเดือนมาไม่ปกติ สูตรเหล่านั้นมักจะไม่ได้ผลครับ

      1. ผมมีอะไรกับเเฟนวันที่6ตุลา ไม่ใสถุงเเต่หลั่งนอก ผ่านมา2วันเเฟนกินยาคุมฉุกเฉิน พอวันที่11 เมนส์มาถึงวันที่16ตุลา จนถึงวันที่ 15 พฤศจิ 35วันเเล้วเมนส์ยังไม่มา เเละมีอาการปวดท้องหน่วงๆบางเวลา ปวดหัว คลื่นไส้ มีอาการอยากอาหารมากกว่าปกติ นอนไม่หลับ
        มีความต้องการทางเพศสูง สิวขึ้น มีตกขาวสีขาวขุ่น จนวันที่17 เมนส์ยังไม่มา อยากทราบว่ามีโอกาสตั้งครรภ์ไหมครับ หรือเป็นเเค่อาการจากเอฟเฟคของยาคุมฉุกเฉิน

        1. เป็นไปได้ว่าจะเป็นอาการของการตั้งครรภ์ในช่วงเริ่มต้น เพราะอาการเหล่านี้เป็นอาการที่พบได้บ่อยในหญิงตั้งครรภ์ในช่วง 4-6 สัปดาห์แรกครับ
          แต่อาการเหล่านี้ยังสามารถพบได้ในภาวะอื่นๆด้วย เช่น ภาวะก่อนมีประจำเดือน (PMS) ภาวะไข้ทับระดู ภาวะถุงน้ำรังไข่แตก ภาวะแพ้อาหาร ภาวะลำไส้อักเสบ เป็นต้น
          Mr.Sprege แนะนำว่า ซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจด้วยตนเอง หรือไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัย จะดีที่สุดครับ

          เพิ่มเติม จากที่สงสัยว่าเอฟเฟคของยาคุมฉุกเฉินหรือเปล่า ผลคือ ไม่ใช่นะครับ
          ผลข้างเคียงของยาคุมฉุกเฉินจะมีอาการตามต่อไปนี้ครับ
          -คลื่นไส้ อาเจียน
          -ปวดศีรษะ
          -ปวดท้อง
          -เวียนศีรษะ
          -อ่อนเพลีย
          -เลือดออกทางช่องคลอดผิดปกติ
          ผลข้างเคียงเหล่านี้มักเกิดขึ้นในช่วง 24 ชั่วโมงแรกหลังรับประทานยาคุมฉุกเฉิน และมักหายไปเองภายใน 1-2 วัน

  10. มีเพศสัมพันธ์กับแฟนประมาณตี2 แต่ไม่ได้ใส่ถุง หลั่งนอก แต่พอเวลาประมาณ 6 โมงเช้า ปวดท้องและมีประจำเดือน แต่มาไม่มากแต่มีลิ่มเลือดหลุดออกมา หลังจากนั้นเลือดประจำเดือนไหลน้อยมาก จะกินยาคุมฉุกเฉินได้ไหมคะ ไม่มั่นใจการหลั่งค่ะ

    1. การมีเพศสัมพันธ์ขณะเป็นประจําเดือน มีโอกาสท้องได้ครับ เนื่องจาก เลือดที่ออกมาช่วงวันแรกๆ อาจไม่ใช่ประจำเดือน แต่เป็นเพียงเลือดที่ซึมขณะไข่ตก หากไม่ได้สวมถุงยางอนามัยก็มีความเสี่ยงที่จะท้องได้ครับ ถ้ากังวลแนะนำให้กินยาคุมฉุกเฉินเพื่อป้องกันไว้จะดีที่สุดครับ

  11. ยาคุมฉุกเฉิน ถ้ากินบ่อยแล้วจะทำให้มีลูกยากจริงมั้ยคะ แล้วปกติตรวจครรภ์ได้หลังมีเพศสัมพันธ์ กี่วันคะ ถึงจะรู้ว่าตั้งครรภ์มั้ย
    เพิ่งมีเพศสัมพันธ์ไปวันที่ 13 ค่ะ

    1. คำถามแรก : ยาคุมฉุกเฉิน ถ้ากินบ่อยแล้วจะทำให้มีลูกยากจริงมั้ย
      คำตอบ : ยาคุมฉุกเฉินไม่ได้ทำให้ผู้หญิงมีลูกยากครับ การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพได้ เช่น คลื่นไส้ อาเจียน ปวดศีรษะ มีเลือดออกกะปริดกะปรอย ประจำเดือนผิดปกติ และภาวะขาดฮอร์โมน นอกจากนี้ การกินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ อาจทำให้ผู้หญิงเสี่ยงต่อการท้องนอกมดลูกได้ครับ ()
      คำแนะนำเพิ่มเติม : องค์การอนามัยโลก (WHO) แนะนำว่าผู้หญิงควรกินยาคุมฉุกเฉินไม่เกิน 4 เม็ดต่อเดือน และควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีคุมกำเนิดฉุกเฉินเท่านั้น ไม่ควรใช้ยาคุมฉุกเฉินเป็นวิธีคุมกำเนิดหลัก แนะนำให้ลองปรึกษาเภสัชแล้วหายาคุมมาทาน (บางคนทานยาคุมแล้วสิวไม่ขึ้นและหน้าใสขึ้นอีกด้วย)
      คำถามที่ 2 : ปกติตรวจครรภ์ได้หลังมีเพศสัมพันธ์ กี่วัน
      คำตอบ : สามารถตรวจพบการตั้งครรภ์ได้หลังจากมีเพศสัมพันธ์ไปแล้วประมาณ 12-14 วัน เพราะเป็นระยะเวลาที่ไข่ที่ปฏิสนธิจะฝังตัวในผนังมดลูก ถ้ามีเพศสัมพันธ์ไปวันที่ 13 ให้นับไปอีก 12-14 วัน จะสามารถตรวจครรภ์ได้ประมาณวันที่ 25-27 ครับ
      คำแนะนำเพิ่มเติม : เน้นย้ำอีกครั้ง แนะนำให้ลองปรึกษาเภสัชแล้วหายาคุมมาทาน เพื่อป้องกันการตั้งครรภ์และเลี่ยงจะที่กินยาคุมฉุกเฉินบ่อยๆ ยาคุมไม่ได้น่ากลัว แถมยังช่วยให้สิวหาย หน้าใส ครับ

  12. ช่วงบ่ายโมงมีไรกับแฟนวันที่21ถุงยางแตกเกิดหลั่งในหลังจากนั้นกินยาคุมฉุกเฉินไม่ถึงชั่วโมงหลังมีเพศสัมพันธ์ พอช่วงสี่ทุ่มห้าสิบมีมูกใสปนขาวออกมาจากช่องคลอด แฟนผ่านระยะไข่ตกไปแล้วประมาณ2วันก่อนมีเพศสัมพันธ์ครั้งล่าสุด อยากทราบว่ามันคืออะไรครับ ตามกำหนดประจำเดือนแฟนจะมาวันที่22 มีความเสี่ยงไหมครับ

    1. มูกใสอาจเป็นอาการตกขาวครับ ถ้า 22 ประจำเดือนมาปกติก็ไม่ต้องกังวลแล้วครับ แต่ผู้หญิงบางคนประจำเดือนมาไม่ปกติ ถ้ามีความเครียด หรือ สุขภาพไม่ดีก็อาจจะคลาดเคลื่อนออกไปได้ครับ

        1. ยิ่งเครียดยิ่งเคลื่อนนาน อาจจะนานเป็นสัปดาห์เลยก็ได้ครับ
          แต่ถ้าเคลื่อนเกิน 2 สัปดาห์แล้วยังไม่มาให้ลองซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจดูครับ
          คำแนะนำเพิ่มเติมที่อาจช่วยทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น
          -พยายามผ่อนคลายความเครียด หาวิธีผ่อนคลายที่เหมาะสมกับตนเอง เช่น ออกกำลังกาย ฟังเพลง นั่งสมาธิ
          -รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ หลีกเลี่ยงอาหารที่มีน้ำตาลและไขมันสูง
          -นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ
          -หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่
          -ดื่มน้ำมะพร้าว

  13. มีอะไรกับแฟนแล้วเเตกในทุกครั้งจะมีเลือดออกตลอดนี่เกิดจากมดลูกเรามีปัญหาหรือเป็นเพราะน้ำของแฟนคะ

    1. เลือดออกเวลามีเพศสัมพันธ์เกิดได้จากหลายสาเหตุครับ ตั้งแต่ อักเสบ ติดเชื้อ หรือฝ่ายหญิงมีอารมณ์ร่วมไม่มากพอจนน้ำหล่อลื่นน้อย เลยอาจทำให้มีเลือดออกมาได้ครับ แต่ถ้าเลือดสีแดงๆดำๆ และมีเลือดออกในช่วงที่ไม่ใช่รอบเดือน และตกขาวเยอะผิดปกติและมีกลิ่นเหม็น แนะนำให้รีบพบแพทย์จะดีที่สุดครับ

  14. มีเพศสัมพันธ์ก่อนเป็นประจําเดือน ไม่ใส่ถุง ไม่หลั่ง ทำแค่3-4ทีแล้วก็เอาออก แล้วพออีกวันแฟนมีประจำเดือน ท้องไหม

    1. ถ้าประจำเดือนมาแล้วก็ไม่ท้องครับ แต่แนะนำให้ใส่ถุงยางจะดีกว่า เพราะว่า แค่สอดใส่ก็มีโอกาสตั้งท้องได้ครับ

      1. มีเพศสัมพันธ์กับแฟนก่อนเมนส์มา3-4 วันไม่ใส่ถุง แฟนทำจนใกล้เสร็จ แล้วเอาออกหลั่งนอก จนตอนนี้คลาดเคลื่อนไป2 วันแล้วเมนส์ยังไม่มา มีโอกาสท้องมั้ยคะ

        1. ถ้าเกิดก่อนเสร็จ ยังมีการสอดใสอยู่โดยไม่ใส่ถุงยางอนามัย แล้วค่อยหลั่งนอก ก็ยังมีโอเาสอยู่ครับ
          แต่การที่ประจำเดือนคลาดเคลื่อนนั้น เกิดได้จากหลายสาเหตุมากๆ ความเครียดก็เป็น 1 ในนั้นด้วยเช่นกัน ทำใจให้ผ่อนคลาย แล้วลองหาน้ำมะพร้าวมากินด้วย ก็อาจทำให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้นครับ

    1. ถ้าให้อธิบายง่ายๆ ไข่ตกคือ การที่ผู้หญิงเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์ หรือพร้อมจะตั้งครรภ์แล้ว เลยมีการไข่ตก แต่เมื่อไข่ตกแล้วไม่มีอสุจิมาผสมกับไข่ เลือดและเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูกก็จะหลุดลอกออกมาจากช่องคลอด กลายเป็นประจำเดือน (ที่ดำๆออกมาพร้อมประจำเดือนคือเนื้อเยื่อบุโพรงมดลูก)
      แต่ถ้าหยิบไข่ไก่มาแล้วทำไข่ตกพื้น หมายความว่ากำลังจะโดนแม่ด่า พ่าม! 1 มุข
      อธิบายแบบยาวๆ
      ไข่ตก (Ovulation) หมายถึง การที่รังไข่ปล่อยไข่ออกมาสู่ท่อนำไข่ กระบวนการนี้จะเกิดขึ้นประมาณ 14 วันก่อนมีประจำเดือนครั้งถัดไป โดยปกติแล้วผู้หญิงจะมีการตกไข่เพียง 1 ครั้งต่อเดือน ไข่ตกเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อฮอร์โมน FSH (Follicle Stimulating Hormone) และ LH (Luteinizing Hormone) ทำงานร่วมกันอย่างเหมาะสม ฮอร์โมน FSH จะกระตุ้นให้รังไข่สร้างถุงไข่ (Follicle) ขึ้น และถุงไข่จะพัฒนาจนสุกพร้อมที่จะปล่อยไข่ออกมา ฮอร์โมน LH จะกระตุ้นให้ถุงไข่แตกออกและปล่อยไข่ออกมา
      เมื่อไข่ตก ไข่จะเคลื่อนตัวไปตามท่อนำไข่ไปยังมดลูก ไข่จะมีชีวิตอยู่ได้ประมาณ 12-24 ชั่วโมง หากมีเพศสัมพันธ์ในช่วงที่ไข่ตกและตัวอสุจิพบไข่ได้ ตัวอสุจิจะผสมกับไข่เกิดเป็นเซลล์สืบพันธุ์ใหม่ที่เรียกว่าไซโกต (Zygote) ไซโกตจะแบ่งตัวและเจริญเติบโตกลายเป็นตัวอ่อน เดินทางฝังตัวในเยื่อบุผนังมดลูก กลายเป็นการตั้งครรภ์นั่นเอง

    1. การมีเพสสัมพันธ์ถึงแม้จะหลั่งนอก แต่ระหว่างที่มีเพศสัมพันธ์ผู้ชายจะมีน้ำหล่อลื่นออกมา น้ำหล่อลื่นจะมีอสุจิออกมาด้วย แต่ไม่ได้ออกมาเยอะมากครับ มีโอกาสท้องได้ แนะนำให้ใส่ถุงยาง หรือ กินยาคุมจะดีกว่า ถ้ากลัวการทานยาคุมแนะนำให้ปรึกษาเภสัช เพื่อให้เภสัชเลือกยาคุมให้ เพราะว่าผู้หญิงหลายๆคนกินยาคุมแล้วสิวหายหน้าใสขึ้นด้วยครับ

  15. หนูเมนไม่มาทั้งเดือนเลยค่ะปกติเมนมาไม่ตรงกันทุกเดือนเลย แล้วเมนยังไม่มาแล้วมีเพศสัมพันธ์กับแฟน ก่อนเมนมา แล้วเมนไม่มาจนเดือนใหม่แล้วมีโอกาสท้องมั้ยคะ ต้องทำยังไงคะ ถ้าไม่อยากท้อง

    1. ถ้าประจำเดือนมาไม่ปกติอยู่แล้ว +กับอาการเครียด +ความเหนื่อยล้าต่างๆ จะยิ่งทำให้ประจำเดือนคาดเคลื่อนเป็นเวลานานๆ ในกรณีที่ประจำเดือนมาไม่ปกติส่วนใหญ่จะเป็นภาวะมีบุตรยาก แต่ไม่สวมถุงยาง หรือ กินยาคุมก็มีบุตรได้เหมือนเดิมครับ
      ถ้าสงสัยว่าตั้งครรภ์ไหม สามารถหาซื้อที่ตรวจครรภ์มาตรวจได้ครับ ตรวจการตั้งครรภ์ด้วยตนเองควรรออย่างน้อย 12-14 วันหลังมีเพศสัมพันธ์ครั้งสุดท้าย
      ถ้าไม่อยากท้องต้องทำยังไง กินยาคุมเป็นประจำ หรือ ใส่ถุงยางอนามัยจะดีที่สุดครับ
      หรือถ้าเกิดตรวจเจอว่าตั้งครรภ์แล้ว แต่เลี้ยงดูไม่ไหว แนะนำให้ไปโรงพยาบาลและบอกแพทย์ว่า ขอยุติการตั้งครรภ์ ตรวจสอบได้ที่ลิงค์ สถานพยาบาลที่ให้บริการยุติการตั้งครรภ์
      ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 305 ระบุว่า หญิงที่อายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ที่ทำแท้ง ไม่ถือว่ามีความผิด หากเป็นการยุติการตั้งครรภ์โดย ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรม
      ดังนั้น ผู้หญิงที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์ในอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ สามารถดำเนินการได้ดังนี้
      1.พบแพทย์หรือพยาบาลที่โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลที่ให้บริการยุติการตั้งครรภ์
      2.แจ้งความประสงค์ที่จะยุติการตั้งครรภ์กับแพทย์หรือพยาบาล
      3.แพทย์หรือพยาบาลจะทำการซักประวัติ ตรวจร่างกาย และตรวจอัลตราซาวนด์ เพื่อยืนยันอายุครรภ์
      4.หากอายุครรภ์ไม่เกิน 12 สัปดาห์ แพทย์หรือพยาบาลจะอธิบายรายละเอียดเกี่ยวกับการยุติการตั้งครรภ์ ความเสี่ยง และผลข้างเคียง
      5.ผู้หญิงที่ตัดสินใจยุติการตั้งครรภ์จะต้องลงนามในเอกสารยินยอม
      6.แพทย์หรือพยาบาลจะดำเนินการยุติการตั้งครรภ์ตามวิธีการที่เหมาะสมกับอายุครรภ์

    1. มีโอกาสท้อง น้อยมากครับ แต่ก็ถือว่ายังมีโอกาสอยู่ แนะนำให้ใส่ถุงยางทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ จะป้องกันได้ดีกว่าครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *