เหตุผลที่ควรตรวจอสุจิผู้ชาย เมื่ออายุ 30 ปี ขึ้นไป
เมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายเกิดการเสื่อมสะภาพ รวมไปถึงฮอร์โมนในร่างกายที่เริ่มลดลง ยิ่งต้องหมั่นตรวจสุขภาพ และควรตรวจอสุจิร่วมด้วย เพื่อเราจะได้รู้ตัวว่าพร้อมมีบุตรหรือไม่
น้ำอสุจิคือ?
“น้ำอสุจิ” หรือที่เรียกติดปากกันว่า “น้ำเชื้อ” (Semen) คือของเหลวสีขาวข้น ที่จะหลั่งออกมาจากอวัยวะเพศของผู้ชายเมื่อถึงจุดสุดยอดของการมีเพศสัมพันธ์ การช่วยตัวเอง รวมไปถึงการหลั่งธรรมชาติอย่าง การฝันเปียก (Wet Dream) น้ำอสุจิประกอบไปด้วยตัวอสุจิและน้ำหล่อเลี้ยงต่างๆ โดยในการหลั่งแต่ละครั้งจะหลั่งออกมาประมาณ 3 – 4 มิลลิลิตร และมีจำนวนอสุจิประมาณ 300 – 500 ล้านตัว
อสุจิแบบไหนถึงเรียกว่าแข็งแรง
เกณฑ์ที่องค์การอนามัยโลกระบุไว้คือ ปริมาณของน้ำเชื้อต้องไม่ต่ำกว่า 2 มิลลิลิตร และมีจำนวนอสุจิไม่ต่ำกว่า 20 ล้านตัวต่อ 1 มิลลิลิตร ตัวอสุจิมีชีวิตไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 75 ตัว อสุจิปกติ (มีหัวและหางครบ) ต้องมีไม่ต่ำกว่าร้อยละ 30 ตัว อสุจิวิ่งไปข้างหน้าไม่ต่ำกว่าร้อยละ 50 ตัว อสุจิวิ่งไปด้านหน้าอย่างแข็งแรงและรวดเร็วไม่ต่ำกว่า ร้อยละ 25 หากน้ำเชื้อมีค่าต่ำกว่าค่ามาตรฐานเหล่านี้ ไม่ว่าตัวใดตัวหนึ่ง เรียกว่าน้ำเชื้ออ่อน หรืออสุจิไม่แข็งแรงตามเกณฑ์นั่นเอง
เมื่อไหร่ถึงควรตรวจ อสุจิ
ผู้ชายที่มีภาวะมีบุตรยากจะมีเพียงส่วนน้อย ร้อยละ 15 เท่านั้น จึงควรตรวจเมื่อเข้าเกณฑ์ภาวะมีบุตรยากเท่านั้น มีภาวะและโรคที่ส่งผลเสียต่อคุณภาพอสุจิ เช่น โรคตับ โรค การสูบบุหรี่ การใช้สารเสพติด การดื่มแอลกอฮอลล์ รวมไปถึงโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ุต่างๆ
อย่างไรก็ตามน้ำอสุจิจะมีคุณภาพลดลงเล็กน้อยหลังอายุ 30 ปี อาจทำให้อัตราการตั้งครรภ์ในช่วงอายุนี้นั้นแย่ลง จึงต้องมีการวางแผนและการบำรุงอย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มอัตราความสำเร็จในการมีบุตรของผู้ชาย
อ่านบทความสุขภาพของเราต่อได้ ที่นี่ เลย